Friday, November 15, 2013

สิ่งที่ควรรู้ 55


สิ่งที่ควรรู้ 54


สิ่งที่ควรรู้ 53


สิ่งที่ควรรู้ 52


สิ่งที่ควรรู้ 51


สิ่งที่ควรรู้ 50


สิ่งที่ควรรู้ 49


สิ่งที่ควรรู้ 48


สิ่งที่ควรรู้ 47


สิ่งที่ควรรู้ 46


สิ่งที่ควรรู้ 45


สิ่งที่ควรรู้ 44


สิ่งที่ควรรู้ 43


สิ่งที่ควรรู้ 42


สิ่งที่ควรรู้ 41


Friday, November 1, 2013

วันระลึกถึงผู้ล่วงลับ

เทศกาล ระลึกถึงผู้ล่วงลับ ของชาวคริสต์ คาทอลิก

วันฉลองนักบุญทั้งหลาย
วันฉลองนักบุญทั้งหลายของชาวคริสต์ มีจุดกำเนิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 731 โดย พระสันตะปาปาเกรโกรี ที่ 3 ทรงเป็นผู้กำหนดให้บรรดา คริสตัง “ฉลองนักบุญทั้งหลาย” วันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งพระองค์ทรงย้ายจากวันฉลองเดิมคือ 13 พฤษภาคม เพื่อจะอุทิศวันนี้แก่วัดนักบุญทั้งหลายอันเป็นวัดน้อยอยู่ในพระมหาวิหารนักบุญเปโตร, กรุงโรม และ “วันฉลองนักบุญทั้งหลาย” 1 พฤศจิกายน ก็แพร่หลายไปทั่วโลกตั้งแต่ปีนั้นเอง พอในปี ค.ศ.998 นักบุญโอดิโล, อธิการอารามแห่งคลุนนี่ ในประเทศฝรั่งเศส ก็ได้เพิ่มเอาวันที่ 2 พฤศจิกายน เป็นวันระลึกถึงบรรดาวิญญาณผู้ล่วงลับทั้งหลาย ดังนั้นพระศาสนจักรคาทอลิกซึ่งมีวันฉลอง “บรรดานักบุญทั้งหลาย” แล้ว ก็ยังมีวันฉลอง “บรรดาผู้ล่วงลับ” ไปแล้วทุกคนติดกัน คือวันที่ 1 และ 2 พฤศจิกายน ตามลำดับ
ธรรมเนียมชาวไอริช แต่บรรดาคริสตังชาวไอริชเป็นพวกแรกที่คิดว่ามีการคิดถึง “นักบุญ”, “วิญญาณในไฟชำระ” แต่ไม่มีใครคิดถึงวิญญาณที่เหลือ ซึ่งอาจจะเป็นคนไม่ค่อยดำเนินชีวิตตามความเชื่อ, อาจจะอยู่ในนรก ดังนั้นพวกคริสตังชาวไอริชจึงเริ่มธรรมเนียมตีกระทะและหม้อในเย็นวันสุกดิบ ก่อนจะฉลอง “นักบุญทั้งหลาย” (All Hallow Eve) เพื่อให้ผู้ตายที่ไม่ได้รับความรอดเหล่านั้น รู้ว่า พวกเขาก็ยังมีคนระลึกถึงอยู่ แต่นี่ก็ยังไม่เหมือนงานวัน “ฮาโลวีน” ที่ปัจจุบันกระทำกันอยู่ มันยังรอผสมเข้ากับธรรมเนียมอีกสายหนึ่ง…
ธรรมเนียมชาวฝรั่งเศส ราวศตวรรษที่ 14 หรือ 15, ในประเทศฝรั่งเศส ช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาด เป็นฝีตายกันเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดประชากรในทวีปยุโรปหดหายไปครึ่งหนึ่ง บรรดาศิลปินก็จะบรรยายความน่ากลัวของ “ความตายสีดำ” ของโรคระบาดนี้ ด้วยการวาดภาพบนกำแพงสุสานเป็นภาพบรรดาปีศาจเดินนำฝูงชนที่ถูกล่ามโซ่ไว้เป็นแถวยาวเดินลงสู่หลุมฝังศพ ภาพเหล่านี้เรียกว่า “ระบำแห่งความตาย” (Dance of Death) หรือ (The Dance Macabre) บางทีการแสดงออกของระบำความตายก็แสดงได้ด้วยการแต่งชุดเหมือนผู้ตายในวัน “ฉลองนักบุญทั้งหลาย” (1 พฤศจิกายน) ดังนั้นเราจะเห็นว่าคริสตังชาวไอริชระลึกถึงผู้ล่วงลับที่ไม่ได้รับความรอด วันสุกดิบก่อนฉลองนักบุญทั้งหลาย (31 ตุลาคม) แต่ไม่ได้แต่งตัวอะไร และคริสตังชาวฝรั่งเศสระลึกถึงความตายอันเกิดจากโรคระบาดโดยการแต่งชุดเหมือนผู้ตายในวันฉลองนักบุญ ทั้งหลาย (1 พฤศจิกายน)
การรวมธรรมเนียมทั้งสอง ที่สุดราวศตวรรษที่ 18 เมื่อคริสตังไอริชและคริสตังฝรั่งเศสที่อพยพ มาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเริ่มสร้างชาติใหม่ๆ พวกเขาได้แต่งงานกัน และก็นำธรรมเนียมทั้งสองมาผสมกันด้วยการแต่งชุดต่างๆ ในวันสุกดิบก่อนฉลองนักบุญทั้งหลาย จึงเป็นที่มาของวัน “ฮาโลวีน” ในปัจจุบันคือ 31 ตุลาคม