Saturday, February 28, 2015

ท่านั่งขับรถที่ถูกต้อง เป็นอย่างไรวันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกัน

   สำหรับผู้ที่ต้องขับรถไปทำงานเป็นประจำนั้น อาจจะเคยเกิดอาการเหมื่อยล้าในการขับและควบคุมรถได้ไม่ดี ซึ่งเรื่องท่านั่งในการขับรถนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการปรับกระจกมองข้างให้ถูกวิธีเพื่อนๆท่านไหนที่ยังไม่ทราบว่าท่านนั่งขับรถที่ถูกวิธีนั้นเริ่มต้นอย่างไรต้องปรับตรงไหนบ้าง เดี๋ยวเรามาเริ่มกันเลยครับ

 เริ่มที่ระยะห่างของพวงมาลัย
           ท่านั่งขับรถที่ถูกวิธีนั้น สิ่งแรกต้องเริ่มจากการระยะห่างของพวงมาลัย ซึ่งระยะห่างจากพวงมาลัยที่จะทำให้นั่งสบายนั้นควรห่างจากพวงมาลัย 1ช่วงแขนพอดี โดนที่แขนของเราจะต้องไม่หย่อนไม่ตึงจนเกินไป  ซึ่งระยะแบบนี้จะทำให้มีประสิทธิภาพในการควบคุมดีที่สุดในการขับรถ แต่สิ่งสำคัญอย่านั่งใกล้พวงมาลัยมากจนเกินไปเพราะการนั่งท่านี้จะทำให้กล้ามเนื้อแขนตึงจนเกินไป รวมถึงห้ามเอนเบาะนอนขับเพราะจะทำให้ควบคุมรถได้ยากหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
 การปรับพนักพิง
            เรื่องการปรับพนักพิงนั้นต้องเข้าใจก่อนว่ารูปร่างของแต่ละคนนนั้นย่อมไม่เท่ากัน เริ่มจากให้ปรับเบาะให้ตรง หลังจากนั้นค่อยปรับเอ็นหลังกดไปประมาณ 1-2 ล็อค ให้ตัวพนักพิงเข้ากับเอวจนทำให้เรารู้สึกว่ากระชับเท่านี้ถือว่าใช้ได้เลย
 หัวเบาะหรือ หัวหมอน
           หัวเบาะหรือหัวหมอนถือว่าสำคัญห้ามนำออกจากเบาะโดยเด็ดขาดเพราะหัวเบาะหรือหัวหมอนตัวนี้ถูกทำมาเพื่อลดแรงกระแทก และอาการบาดเจ็บช่วงคอของคนนั่งซึ่งการปรับนั้นควรปรับให้อยู่ประมาณครึ่งของศีรษะเพื่อลดความแรงจากการเกิดอุบัติเหตุได้นั้นเอง
 ตำแหน่งพวงมาลัย
             การปรับตำแหน่งพวงมาลัยที่ดีนั้นควรให้ พวงมาลัยนั้นเชิดขึ้นหาคนขับนิดหน่อยจะทำให้การควบคุมรถนั้นมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งการปรับพวงมาลัยสูงหรือต่ำไปอาจจะทำให้ควบคุมพวงมาลัยอยาก


การจับพวงมาลัยก็มีผลต่อการขับคุมรถด้วยเช่นกัน

10 ถนนที่สวยที่สุดในโลก

การเดินทางของทุกคนล้วนแล้วแต่จะเพิ่มประสบการณ์ไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเจออะไรที่ดีและไม่ สวยและไม่สวย ทุกอย่างก็คือประสบการณ์ที่เราได้รับ แต่สิ่งที่ทุกคนต้องเจอทุกการเดินทางนั่นก็คือ วิวทิวทัศน์ข้างถนนในการเดินทาง ซึ่งบางครั้งถึงกับอยากที่จะหาที่จอดรถ หามุมสวยๆ ถ่ายรูป แต่บางครั้งก็อาจจะอยากรีบขับไปให้พ้นๆ ก็มี แต่ในครั้งเราจะนำถนนที่สวยจนอยากจะเก็บภาพไว้ในความทรงจำกันเลย
          โดยสำนักข่าวต่างประเทศได้ทำการรวบรวมถนนที่มีวิวสวยที่สุดในโลก ที่ถึงกับว่าต้องไปชมให้ได้ก่อนตายถึง 10 อันดับเลยทีเดียว โดยเริ่มจาก

อันดับ 1 ถนนทางหลวงหมายเลข 1 บิ๊กเซอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย
          ถนนทางหลวงหมายเลข 1 บิ๊กเซอร์ เป็นถนนที่มีความยาวถึง 140 กิโลเมตร จากซาน คาร์โปโฟโร ไปจนถึงแม่น้ำคาร์เมล และเป็นถนนที่ตัดเลียบชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ซึ่งวิวข้างทางจะถูกโอบล้อมไปด้วยหน้าผาเลียบชายฝั่ง ที่มองออกไปจะเห็นทะเลสีครามสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ยังมีภูเขา และป่าทึบเรียงรายกันอย่างมีศิลปะ

อันดับ 2 เฟอร์กา พาส, สวิตเซอร์แลนด์
          ถนนเฟอร์กา พาส เป็นถนนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ตัดผ่านเทือกเขาแสนสวย ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ เทือกเขา และสายน้ำ ซึ่งทุกอย่างมารวมกันได้อย่างลงตัว โดยถนนเส้นนี้เคยเป็นฉากในภาพยนต์เรื่อง เจมส์ บอนด์ ตอน โกลด์ฟิงเกอร์ อีกด้วย

อันดับ 3 ถนนแอตแลนติก ประเทศนอร์เวย์
          ถนนแอตแลนติก เป็นถนนที่ตัดผ่านมหาสมุทร ซึ่งอาศัยโขดหินเป็นตัวเชื่อมระหว่างเมืองคริสเตียนซุนด์และเมืองโมลเด รวมถึงยังเป็นถนนที่สำคัญในการท่องเที่ยวของนอร์เวย์อีกด้วย โดยถนนแห่งนี้มีความยาว 8.3 กิโลเมตร เปิดใช้เมื่อปีค.ศ.1989

อันดับ 4 ถนนไวท์ริม อุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์ รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐฯ
          ถนนไวท์ริม ในอุทยานแห่งชาติแคนยอนแลนด์ รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐฯ เป็นถนนที่มีทั้งความสวย และอันตรายไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นทางที่วกวน บวกกับความลาดชันที่แตกต่างกัน รวมถึงฝุ่นจากดินที่พร้อมจะบดบังทัศนวิสัยในทุกเมื่อ ซึ่งหากใช้รถ 4x4 จะต้องใช้เวลาถึง 2-3 เลยทีเดียวในการขับ แต่ถ้าอยากชื่นชมธรรมชาติให้เต็มที่ ก็คงต้องปั่นจักรยาน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน แต่ทุกอย่างก็ต้องมีข้อดี เพราะถนนไวท์ริมจะทำให้คุณได้เห็นวิวทิวทัศน์ของแคนยอนแลนด์ได้อย่างใกล้ชิด

อันดับ 5 ถนนเทียนอันเหมิน หูหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน
          ถนนเทียนอันเหมินเป็นถนนที่เริ่มจากจุดล่างไปจนถึงจุดสูงสุดของภูเขาเทียนอันเหมิน ซึ่งมีความสูงถึง 131.5 เมตร โดยระหว่างทางจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม โดยถนนเทียนอันเหมินมีระยะทาง 11 กิโลเมตร แต่ถ้าหากใครไม่อยากขับรถขึ้นไป ก็สามารถที่จะนั่งกระเช้าเคเบิลขึ้นไปยังยอดเขาได้ โดยบางจุดต้องเจอกับความชันถึง 37 องศา ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ที่กลัวความสูง

อันดับ 6 สะพานเซเว่นไมล์ รัฐฟลอริดา
          สะพานเซเว่นไมล์ หรือทางหลวงโพ้นทะเลที่ล่ำลือกัน เป็นสะพานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในรัฐฟลอริดา เพราะเป็นสะพานที่ทำการตัดผ่านมหาสมุทธ ทำให้ได้เห็นทะเลที่กว้างไกล บวกกับน้ำทะเลที่มีสีตัดกับท้องฟ้าเหมือนภาพวาดเลยก็ว่าได้

อันดับที่ 7 ถนนแชปแมนพีค เคปทาว์น ประเทศแอฟริกาใต้
          ถนนแชปแมนพีค เป็นถนนที่มีระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร และทางโค้งอีกกว่า 144 โค้ง โดยถนนเส้นนี้จะเชื่อมระหว่างอ่าวนอร์ดฮุคก์และอ่าวฮาท์ว ซึ่งอยู่บริเวณชายฝั่งของคาบสมุทรแอตแลนติก อีกทั้งยังเป็นถนนที่เลียบชายฝั่งหินของแชปแมนพีคอีกด้วย จุดเด่นของถนนแชปแมนพีคคือ คุณจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ถึง 180 องศาเลยทีเดียว

อันดับ 8 ถนนสเตวิลโอ พาส อีสเทิร์นแอลป์ ประเทศอิตาลี
          ถนนสเตวิลโอ พาส อีสเทิร์นแอลป์ เป็นถนนที่มีทางโค้งเป็นเอกลักษณ์ เสริมด้วยเป็นทางลงเขา อีกทั้งยังมีวิวเขาที่น่ามองเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดที่ทางนิตยสารท็อปเกียร์ได้เลือกให้เป็นถนนที่น่าขับขี่ที่สุดของโลก และเป็นที่ๆ นักขับต้องไปเยือนให้ได้ในชีวิตนี้

อันดับ 9 ถนนโคล เดอร์ทูรินิ  ประเทศฝรั่งเศส
          ถนนโคล เดอร์ทูรินิ เป็นถนนที่ตัดผ่านเทือกเขาเมอร์ริตไทม์ในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นถนนที่มีความสวยงามจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา และต้นไม้ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ต้องตกหลุมรัก แต่ต้องแลกมาด้วยความแคบ บวกกับทางโค้งหักศอกที่อันตรายมากๆ หลายโค้ง ถนนโคล เดอร์ทูรินิ ยังเป็นถนนที่ใช้ในการแข่งขันแรลลี่มอนติคาร์โล และแข่งขันจักรยาน ในรายการ ตรู เดอ ฟรอง ถึง 3 ครั้ง เลยทีเดียว

อันดับ 10 อุโมงค์โกว์เหลียง สาธารณรัฐประชาชนจีน
          อุโมงค์โกว์เหลียง เป็นอุโมงค์ที่ทำการเจาะผ่านภูเขาไท้ฮาง โดยถนนเส้นนี้มีความเป็นมาจากการที่ชาวบ้านในแถบนั้น ร่วมมือร่วมใจกันเจาะถนนเพื่อเชื่อมต่อกับโลกภายนอก อีกทั้งถนนเส้นนี้ยังเผยให้เห็นถึงหน้าผาที่สวยงาม และวิวที่มองออกไปสุดลูกตา

เมื่อแดนสวรรค์ กลายเป็นแดนสยอง เผย 9 ตำนานลึกลับ ใน Disneyland

เมื่อแดนสวรรค์ กลายเป็นแดนสยอง เผย 9 ตำนานลึกลับ ใน Disneyland
          Disneyland หรือ Walt Disney World ถือเป็นหนึ่งแดนสวรรค์และแดนอัศจรย์ของทุกครอบครัว เป็นสถานที่พิเศษที่เหมาะกับวันหยุดพิเศษ แต่ใครเล่าบ้างจะรู้ว่าดินแดนแห่งความสุขแห่งนี้นั้นมี 9 ตำนานลึกลับซ่อนอยู่ 
          ตำนานที่ 1 มีผู้คนมากมายอ้างว่า เมื่อถึงตอนกลางคืน ตุ๊กตาที่ตั้งอยู่ใน It's A Small World จะมีชีวิต และเดินหายไปจากตำแหน่งที่ถูกตั้งเอาไว้
เมื่อแดนสวรรค์ กลายเป็นแดนสยอง เผย 9 ตำนานลึกลับ ใน Disneyland
 ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก viralnova
        ตำนานที่ 2 มีผู้คนมากมายอ้างว่า ทุกค่ำคืนวิญญาณชายที่ตายในยุค 70 จะขึ้นมานั่งเล่นในกระสวยอวกาศ บริเวณ Space Mountain ของ Disney World 
เมื่อแดนสวรรค์ กลายเป็นแดนสยอง เผย 9 ตำนานลึกลับ ใน Disneyland
          ตำนานที่ 3 มีผู้คนมากมาย มักนำเถ้ากระดูกคนรักที่เสียชีวิตมาโปรยตามสถานที่ต่างๆใน Disneyland  สถานที่ซึ่งมีคนโปรยเถ้ากระดูกมากที่สุดอยู่ที่ Pirates of The Caribbean และ The Haunted Mansion
เมื่อแดนสวรรค์ กลายเป็นแดนสยอง เผย 9 ตำนานลึกลับ ใน Disneyland 
          ตำนานที่ 4 ในปี 2005 มีเด็กชายวัย 4 ปี เสียชีวิตที่ Mission Space ผู้คนมากมายมักอ้างว่า ทุกครั้งที่เดินผ่านจุดเกิดเหตุ จะรู้สึกเย็นผิดปกติ 
เมื่อแดนสวรรค์ กลายเป็นแดนสยอง เผย 9 ตำนานลึกลับ ใน Disneyland
          ตำนานที่ 5 ในปี 1999 เกิดเรื่องลึกลับขึ้นบริเวณ It's A Small World เมื่อจู่ๆเจ้าหน้าที่ของ Disneyland ได้สั่งอพยพผู้คนออกจากสถานที่ โดยไม่อธิบายถึงสาเหตุ ก่อนที่ในเวลาต่อมา ได้มีคนนำภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเผยแพร่ ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพเด็กถูกห้อยจากเพดานลงมา
เมื่อแดนสวรรค์ กลายเป็นแดนสยอง เผย 9 ตำนานลึกลับ ใน Disneyland
          ตำนานที่ 6 มีผู้คนมากมายอ้างว่า เคยมีพนักงานที่เห็นโคมไฟในห้องพักของ Walt Disney ติดอยู่ จึงขึ้นไปปิดไฟ แต่เมื่อปิดไฟลง ูโคมไฟก็ติดขึ้นมาเองอีก ทาง Disneyland จึงเปิดโคมไฟในห้อง Walt Disney ทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
เมื่อแดนสวรรค์ กลายเป็นแดนสยอง เผย 9 ตำนานลึกลับ ใน Disneyland
         ตำนานที่ 7 The Haunted Mansion มักถูกมองเป็นสถานที่ตลก มากกว่าสถานที่น่ากลัว จนกระทั่งนักท่องเที่ยวคู่หนึ่งเจอเหตุการณ์สุดแปลกมากับตัว เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงเด็กหัวเราะ และร้องไห้ ขณะเที่ยวในสถานที่แห่งนี้ และภาพที่คุณเห็นอยู่คือภาพลึกลับที่พวกเขาถ่ายมาได้
เมื่อแดนสวรรค์ กลายเป็นแดนสยอง เผย 9 ตำนานลึกลับ ใน Disneyland
         ตำนานที่ 8 มีผู้คนมากมายอ้างว่า มีพนักงานรายหนึ่งหัวใจวายเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติงาน ขณะพาแขกไป Tower of Terror ที่ตั้งอยู่ใน Hollywood Studios ทุกวันนี้วิญญาณของเขายังวงเวียนในสถานที่เขาหัวใจวาย
เมื่อแดนสวรรค์ กลายเป็นแดนสยอง เผย 9 ตำนานลึกลับ ใน Disneyland
         ตำนานที่ 9 มีผู้คนมากมายอ้างว่า มีนักแสดงชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Deborah Stone เสียชีวิตระหว่างการแสดง America Sings ใน Disney World's Tomorrowland หลังตัวเขาเข้าไปติดในประตูหมุนจนเสียชีวิต ซึ่งผู้ชมที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างคิดว่าเป็นการแสดงของเขา
เมื่อแดนสวรรค์ กลายเป็นแดนสยอง เผย 9 ตำนานลึกลับ ใน Disneyland

คดีประวัติศาสตร์ ติดคุก154,005 ปี

คุณพระเห็นจำนวนตัวเลขปีที่ต้องรับโทษ นี่กว่าจะได้อิสระคงกลายเป็นฟอสซิลคาคุกแน่ ๆ ว่าแต่ความผิดอะไรกันที่ทำให้ต้องจำคุกถึง แสนปีขนาดนี้!
          ขุดตำนานคดีดัง ย้อนกลับไปไม่นานกว่า30 ปีที่แล้ว กับข่าวครึกโครมถึงขึ้นต้องจารึกเป็นประวัติศาสตร์เมื่อตำรวจบุกจับ นางชม้อย ทิพย์ศรี เท้าแชร์คนดังที่หลอกคนเป็นหมื่นๆคน หลอกเงินไปกว่า 4,000 ล้านบาท !! 
 
          นางชม้อยได้รับการชักนำจากเพื่อนร่วมงานให้ร่วมลงทุนค้าน้ำมัน เมื่อทำได้ระยะหนึ่งเห็นว่ารายได้ดี จึงชักชวนคนอื่นๆ เข้าร่วมลงทุนด้วย และก็เริ่มเล็งเห็นช่องทาง มโนหลอกคนอื่นว่าทำกิจการซื้อขายน้ำมันทั้งในและต่างประเทศ มีเรือเดินทะเลขนส่งน้ำมัน โดยไม่ได้ประกอบธุรกิจจริงโดยหลอกให้คนหลงเชื่อนำเงินมาลงทุนกับบริษัท โดยทำสัญญากู้ยืมเงินว่าจะให้เงินตอบแทนในอัตราที่สูงลิบเป็นรายเดือน จนเป็นที่รู้จักกันดีในยุคนั้นว่า "แชร์น้ำมัน"
 
          ธุรกิจแชร์น้ำมันเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะระยะแรกทุกคนที่นำเงินมาร่วมลงทุน จะได้รับเงินตอบแทนตรงตามเวลาประกอบกับนางชม้อยทำงานอยู่ในองค์กรเชื้อเพลิง จึงเป็นที่น่าเชื่อถือ และนางชม้อย มียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีนับหมื่นล้านบาทในเวลาอันรวดเร็ว และเธอเอาเงินค่าตอบแทนมาจากไหน เพราะเป็นบริษัทอุปโลก! แน่นอนเธอเปิดอีกหนึ่งบริษัท เพื่อใช้ในการหลอกระดมเงินเพิ่มเติม แต่ความจริงแล้วต้องการนำเงินที่ได้จากเหยื่อรายใหม่ไปจ่ายค่าตอบแทนให้ เหยื่อรายเก่า
            และเมื่อกรมสรรพากรได้ตรวจสอบธุรกิจของเธอ พบว่าบริษัทของนางชม้อยทั้งสองแห่งไม่ได้ทำธุรกิจค้าขายน้ำมันและค้า ข้าวอย่างที่แจ้งไว้ ที่มีเงินมาจ่ายให้ผู้ลงทุนได้ก็เพราะนำเงินที่ได้จากเหยื่อไปฝากธนาคารพาณิชย์ แล้วนำดอกเบี้ยมาจ่ายให้เจ้าของเงินเท่านั้น 
 ขอบคุณรูปภาพจาก news.hunsa.com

          และในวันที่18 กรกฎาคม 2528 นางชม้อยและพวกจึงถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุม พร้อมทั้งยึดทรัพย์สร้างความตกตะลึงให้ชุดจับกุม เนื่องจากนางชม้อยซุกซ่อนทรัพย์สินไว้จำนวนมหาศาล เงินสดจำนวนมากบรรจุไว้ในถุงพลาสติกฝังไว้ในบ้านพักภาพการตรวจค้นถูกตีแผ่ในสื่อทุกแขนงต่างๆ จนกลายเป็นเรื่องโจษขานของสังคมมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้  

          คดีของนางชม้อยใช้เวลาสืบพยานในชั้นศาลนานกว่า 4 ปี สุดท้ายศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2532 ให้นางชม้อยและพวกมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ให้จำคุกเป็นเวลา 117,595 ปี ฐานฉ้อโกงประชาชนตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 อีก 36,410 ปี รวมจำคุก 154,005 ปี 
          ชม้อยเองก็เป็นคนที่มีจิตวิทยาสูง จากการเป็นคนที่มีไหวพริบและปฏิภาณสูง ทำให้ชม้อยสามารถหาทางออกกับคำถามเหล่านั้นได้สบาย
 "เรื่องความจำนี่ก็ต้องยกให้ฉัน ฉันเป็นคนจำได้แม่นยำมาก พูดอะไรหรือตอบคำถามอะไรที่กะทันหันนี่ ฉันสามารถตอบซ้ำๆ ได้อีกไม่ว่ากี่ครั้งกี่หนก็จะไม่มีวันผิดไปจากเดิมเลย"นายตำรวจที่ทำคดีชม้อย ได้อ้างคำกล่าวนั้นของเธอ

19 ประโยชน์อันน่าทึ่ง !!! ของน้ำอัดลม

1. ขจัดคราบไขมันจากเสื้อผ้า
คราบไขมันถ้าเลอะติดเสื้อผ้าจะซักออกยาก น้ำยาทำความสะอาดก็แพง เวลาซักผ้าลองเทน้ำอัดลมสักกระป๋องลงไป กรดคาร์บอนิก และกรดฟอสฟอริก ที่อยู่ในน้ำอัดลมจะช่วยขจัดคราบนี้ได้ดี
 
2. ขจัดคราบสนิม
กรดฟอสฟอริกในน้ำอัดลมจะทำปฏิกิริยากับเหล็กออกไซด์ทำให้สนิมละลาย ซึ่งแน่นอนว่าประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำกว่าน้ำยาล้างสนิมทั่วไปอยู่แล้ว แต่ถ้าพูดถึงความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมน้ำอัดลมชนะ
3. ล้างคราบเลือดออกจากเสื้อผ้า
4. ทำความสะอาดคราบน้ำมันในโรงรถ
เทน้ำอัดลมลงบนพื้นแล้วทิ้งไว้สักคืน เช้ามาก็ทำความสะอาดมันอีกครั้ง
5. กำจัดหอยและทาก ที่มากัดกินต้นไม้ในสวนของคุณ 
เทน้ำอัดลมใส่ถ้วยวางไว้ในสวน ให้พวกหอยทากมากิน กรดในน้ำอัดลมจะเป็นอันตรายกับพวกมัน นอกจากนี้ยังสามารถมีผลต่อแมลงบางชนิดด้วยทำให้สูญเสียการบินไปเลย
6. ล้างคราบสกปรกก้นหม้อและก้นกะทะ 
เพียงแค่เทน้ำอัดลมลงบนรอยดำของหม้อหรือกะทะ ตั้งบนเตา เปิดเตา แล้วรอให้มันไหม้ สักพักก็เอาไปขัดนิดๆ หน่อยๆ ก็ออก
7. ขจัดคราบสกปรกในกาต้มน้ำ 
วิธีการก็คล้ายๆ กับล้างก้นหม้อ เทน้ำอัดลมในกาต้มน้ำ ตั้งไฟ ต้มให้ไหม้แล้วเอาไปขัดออก รอยดำในกาน้ำจะหายไปเหมือนเล่นกล 55
8. ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์ จะเทมาก เทน้ำก็แล้วแต่คน
9. ทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรถคุณ
มีการเล่าว่าผู้จัดจำหน่ายน้ำอัดลมได้ใช้น้ำอัดลมทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรถบรรทุกมาประมาณ 20 ปีแล้ว พวกคนที่ขับรถจัดส่งน้ำอัดลมในร้านขายของชำและปั๊มแก๊สแก๊ส บ่อยครั้งเขาก็ใช้น้ำอัดลมทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรถบรรทุก
10. ทำความสะอาดเหรียญเก่าๆ แช่เหรียญไว้ในน้ำอัดลมทิ้งไว้ (ขนาดโลหะยังทำได้ขนาดนี้ นับประสาอะไรกับกระเพาะและฟันของเรา 555)
11. ล้างคราบสกปรกบนพื้นกระเบื้อง
เทโค้กบนกระเบื้องและปล่อยไว้สักครู่ จากนั้นก็ใช้แปรงหรือแปรงสีฟันขัดคราบสกปรกออก และควรรีบเช็ดออกให้หมดโดยเร็วก่อนก็ที่น้ำอัดลมจะติดกับพื้น
12. ขจัดหมากฝรั่งที่ติดผม
คุณอาจโชคดีที่ไม่ต้องตัดผมทิ้ง เพียงแค่แช่ผมที่ติดหมากฝรั่งกับน้ำอัดลม ไม่กี่นาทีแล้วล้างออก
13. ทำความสะอาดถ้วยลายคราม
14. ทำความสะอาดบันไดสระว่ายน้ำ 
ถ้าคุณมีสระว่ายน้ำ ใช้น้ำอัดลมสัก 2 ลิตรล้างทำความสะอาดบันไดทางขึ้นลงสระว่ายน้ำอย่างน้อยสักปีละครั้ง
15. ทำสีผมให้จางลง
ถ้าคุณไปทำสีผมมา แต่มันดูเข้มไป ก็ใช้น้ำอัดลมล้างเส้นผม สีผมที่เข้มจะจางลง
16. ลบรอยหมึกบนพรม
ถ้าเด็กๆ ที่บ้านเผลอทำรอยหมึกเปื้อนพรม ไม่ต้องกังวล หยิบน้ำอัดลมมาราด แล้วนั่งรอไม่กี่นาที แล้วขัดออก
17. ล้างห้องน้ำ
ถ้าคุณไม่มีน้ำยาทำความสะอาด ไม่ต้องกังวล เทน้ำอัดลมสัก1-2 ขวด ปล่อยทิ้งไว้สัก 5-10 นาที และล้าง ถึงแม้ประสิทธิภาพน้อยกว่าน้ำยาล้างห้องน้ำแต่ก็ใช้แทนกันได้บางครั้ง
18. ทำความสะอาดโครเมี่ยมรถยนต์
ทำให้รถเก่าดูเหมือนใหม่อีกครั้ง เทน้ำอัดลมบนโครเมี่ยมที่มีรอยคราบสกปรกใช้ฟอยล์บางๆ ขัดสิ่งสกปรกน่ารังเกียจออกไป ล้างด้วยน้ำอุ่น และเช็ดให้แห้ง
19. ทำความสะอาดฟอร์นิเจอร์โลหะ
ก่อนทาสีใหม่ แช่ผ้าขนหนูในน้ำอัดลม และวางมันบนพื้นผิวสี ปล่อยไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออก

Monday, February 23, 2015

8 วิธีมั่วข้อสอบให้ได้คะแนนบ้าง

  1. อ่านคำถามทุกข้อ ข้อไหนทำได้ ให้ทำอย่างรอบคอบ ข้อไหนทำไม่ได้ให้ผ่านไปก่อน
  2. ย้อนกลับมาพิจารณาข้อที่ไม่ได้ทำ หรือข้ามไปอีกครั้ง
  3. ค่อยๆ ตัดช้อยส์ที่แน่ใจว่าไม่ใช้คำตอบออกไปทีละข้อ เพื่อเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการมั่วได้ถูกต้อง เช่นตัดช้อยส์ที่ไม่ใช่ออกไป จนเหลือช้อยส์ที่ไม่แน่ใจ2ข้อนั้นแสดงว่า เรามีเปอร์เซ็นต์กาถูก50เปอร์เซ็นต์
  4. ช้อยส์ที่แย่งกันเอง มักจะมีข้อใดข้อหนึ่งถูก เนื่องจากเวลาคิดช้อยส์ให้นักเรียนตอบ อาจารย์จะคิดคำตอบที่ถูกต้องก่อน แล้วจึงหาคำตอบที่ผิดมาใส่ให้ครบจำนวนข้อซอยส์ ซึ่งวิธีคิดคำตอบที่ผิดที่ง่ายที่สุดก็คือ คิดคำตอบที่ตรงกันข้ามกับคำตอบที่ถูกต้อง
  5. ช้อยส์ที่เหมือนกันมักจะไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง สามารถตัดทิ้งได้เลย เพราะถ้าข้อหนึ่งถูก อีกข้อหนึ่งก็ถูกต้อง
  6. ช้อยส์ ไม่มีข้อใดถูก มักจะเป็นช้อยส์หลอก เพราะการคิดช้อยส์ให้ผิดยากกว่าคิดช้อยส์ให้ถูก นอกจากอาจารย์ท่านนั้นจะขึ้นชื่อว่าเป็นเทพในการออกข้อสอบ
  7. ข้อที่อับจนปัญญา ไม่สามารถจะเดาได้ว่าจะเป็นข้อใด ให้กาช้อยส็ที่เรากาน้อยที่สุดของคำตอบ
  8. ให้ทำข้อสอบให้ครบทุกข้อ แม้ข้อสอบนั้นเราจะยังไม่ได้คำตอบก็ตาม เพราะถ้าไม่ตอบแสดงว่าคะแนนข้อนั้นของเราเท่ากับ 0

Wednesday, February 18, 2015

วิธีตรวจสอบว่ามีคนอื่นแอบใช้บัญชี Facebook ของเราหรือไม่ ?

  วิธีตรวจสอบว่ามีคนอื่นแอบใช้บัญชี Facebook ของเราหรือไม่ ? เช็คเองได้ง่ายจริงอะไรจริง
          ปัจจุบันนี้เราสามารถเข้าถึงเฟสบุ๊คได้จากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ PC หรือแท็บเล็ต และเพราะอย่างนี้นี่เอง บางครั้งบางครา เราเล่นเฟสบุ๊คแล้วก็เลยลืมล็อคเอาท์ จนอาจมีคนอื่นแอบเข้ามาเล่นบัญชีของเราต่อก็เป็นได้
           และนี่คือวิธีง่ายๆ ในการตรวจสอบว่ามีคนอื่นแอบใช้บัญชี Facebook ของเราหรือไม่ ? เริ่มจากการล็อคอินเข้า Facebook เลื่อนเลื่อนเมาส์ไปที่มุมบนขวาของจอ จะเห็นลูกศรชี้ลงเลือก "ตั้งค่าบัญชี้ผู้ใช้"
          จากนั้นไปที่ ความปลอดภัย ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ พอเลือกแล้วจะมีรายการตั้งค่าความปลอดภัยต่างๆ อยู่ด้านขวา มาดูกันไปทีละบรรทัดนะ

1. เรียกดูแบบปลอดภัย แนะนำให้เลือกเป็น การเข้ารหัสแบบ https  จะปลอดภัยกว่า ทำได้โดยติ๊กเครื่องหมายลงในช่อง

2. ตั้งค่า การแจ้งเตือนการลงชื่อผู้ใช้ ในกรณีบัญชี facebook ของเรา เข้าเฟสบุ๊คทั้งผ่านทางคอมหรือมือถือ ก็จะมีการแจ้งเตือนผ่านอีเมลล์ หรือหน้า Push บนเฟสบุ๊ค เราจึงรู้ได้ว่าที่มีการแจ้งเตือนมานี้เราเข้าเฟสบุ๊คเอง หรือมีคนอื่นแอบใช้บัญชีเรา

3. รหัสผ่านแอพ เราสามารถตั้งรหัสผ่านแอพเฟสบุ๊คได้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นที่เข้าถึงบัญชี ของเรา โดยติดตั้งแอพ facebook เพิ่มเติม

4. สามารถตรวจสอบ เวลาการใช้งาน ได้ว่ามีการล็อคอินเข้า Facebook ของเราในเวลาใดบ้างและเราสามารถสั่งหยุดกิจกรรม ไม่ให้อุปกรณ์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ ที่ลืมล็อคเอาท์ไว้ เข้าถึงบัญชี facebook ของเราได้ด้วย  เหมาะมากในกรณีที่เราลืมล็อคเอาท์จากร้านอินเตอร์เน็ตหรือที่ทำงาน

Wednesday, February 4, 2015

ประวัติวันวาเลนไทน์ (Valentine's Day)

ประวัติวันวาเลนไทน์ (Valentine's Day)

เทศกาลวาเลนไทน์ (Valentine's Dayเริ่มมีขึ้น ตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็น จักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจาก นี้แล้วพระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่ง อิสตรีเพศและการแต่งงานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันเริ่มต้นเทศกาล เฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะ ถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง
ในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัส ที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่ง กรุงโรม พระองค์ ทรงเป็นกษัตริย์ที่มี ใจคอดุร้ายและทรงนิยม การ ทำสงครามนองเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วม ในกองทัพเนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงทรงมีพระราชโอง การสั่งห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นและ แต่งงานกันในโรมโดยเด็ดขาด ทำให้ ประชาชนทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง
และขณะนั้น มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์ หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับ ชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนาดีนี้เองจึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับและระหว่างนี้ก็ยังคงส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ ของเขาเองขณะที่เขาเป็นนักโทษ เป็นความเชื่อว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิง สาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตโดยการถูกตัดศีรษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับ สุดท้ายถึงจูเลีย โดยลงท้ายว่า "From Your Valentine" 

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูก เก็บไว้ที่โบสถ์ พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุม ศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็น ที่รักของเธอ โดยในทุกวันนี้ ต้นอามันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดรและมิตรภาพ อันสวยงาม และคำนี้ก็เป็นคำที่ใช้มา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าเบื้อง หลังความเป็นจริงของวาเลนไทน์จะเป็นตำนานที่มืดมัว แต่เรื่องราวยังคงแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสงสาร ความกล้าหาญและที่สำคัญที่สุดเป็นเครื่องหมาย ของความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจ เลยว่าในช่วงยุคกลางวาเลนไทน์เป็นนักบุญ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอังกฤษและฝรั่งเศส
ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลอง เทศกาลวันแห่งความรักและดูเหมือนว่ายัง คงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือก หญิงสาวที่ตนเองพึงใจในวันวาเลนไทน์ (Valentine's Day) สืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
วันวาเลนไทน์ หรือ Valentine's Day ในแต่ละประเทศจะมีประเพณีหรือการ ปฏิบัติที่แตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมแล้ว จะมีการเฉลิมฉลองและเป็นการแสดงถึง ความรักที่มีระหว่างกัน ต่อมาเมื่อความ เจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทางด้าน การพิมพ์เข้ามาเกี่ยวข้องมีการพิมพ์บัตร อวยพรโดยเข้ามาแทนที่จดหมายที่ เขียนด้วยลายมือ และปัจจุบันก็มีการส่ง บัตรอวยพรทางออนไลน์เพื่อแสดงถึงความ ก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วย ให้คนที่ต้องการแสดงความรักความห่วงใย ถึงคนที่รักได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
ประวัติวันวาเลนไทน์ นี้ เป็นเรื่องที่เล่าต่อๆกันมา จนถึงปัจจุบัน เท่าที่ค้นหามาได้นี้เป็นเพียง หนึ่งในหลายๆเรื่องเท่านั้น แต่ไม่ว่าประวัติ ที่แท้จริง จะเป็นอย่างไรก็ตาม ใน ปัจจุบัน นี้เราได้ถือว่าวันวาเลนไทน์ เป็น วันสำคัญวันหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว คุณสามารถส่งดอกไม้ ขนมและ การ์ด เพื่อบอกความนัยให้แก่คนพิเศษ ของคุณ วันนี้จะเป็นวันที่เราส่งความรู้สึก ดีๆให้แก่กัน...