ประวัติครัวซองต์
ครัวซองต์ นั้น เป็นคำเรียกที่เพี้ยนมาจากคำว่า เครสเซนต์ (Crescent) และขนมนี่ก็ทำขึ้นมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองที่กองทัพเอาชนะกองทัพตุรกีได้ ต้นกำเนิดของครัวซองยังไม่แน่ชัดว่ามีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศใดกันแน่ซึ่งมีหลากหลายตำราที่กล่าวอ้างซึ่งแตกต่างกันตรงปี ค.ศ.และประเทศแหล่งกำเนิด แต่เนื้อหาของกำเนิดขนมครัวซองโดยรวมจะเป็นเนื้อหาเดียวกันซึ่งถือว่าเป็นขนม "ฉลองชัย" ซึ่งรูปแบบของขนมมาจากสัญลักษณ์จันทร์ครึ่งเสี้ยวเหมือนสัญลักษณ์ธงของตุรกีนั่นเองตามตำนานที่ค้นพบซึ่งมีข้อแตกต่างกันระหว่างปี ค.ศ.กับประเทศต้นกำเนิดมีดังนี้ปี ค.ศ.1683 กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรเลียปี ค.ศ.1686 กรุงบูดาเปส ประเทศฮังการีปี ค.ศ.1742 กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนียเนื้อหาและใจความของประวัติขนมครัวซองจะมีความคล้ายคลึงกันซึ่งเล่าว่า สมัยนั้นเป็นยุคเรืองอำนาจของกองทัพจักรวรรดิมุสลิมออตโตมัน หรือที่เรียกกันว่า พวกเติร์ก กลางดึกคืนหนึ่งเป็นคืนที่ทหารเติร์กระดมกำลังเข้าจู่โจมเพื่อจะตียึดเมือง ณ ร้านขนมปังเล็ก ๆ แห่งหนึ่งยังมีช่างอบขนมปังคนหนึ่งซึ่งกำลังทำงานอยู่ในห้องใต้ดิน เขาได้ยินเสียงดังแปลก ๆ มาจากหลังกำแพงเหมือนเสียงคนกำลังขุดอุโมงค์ซึ่งคาดว่าเป็นพวกทหารเติร์กที่จะบุกเข้ามาโจมตียึดเมืองของตน ช่างทำขนมปังจึงได้ไปรายงานเรื่องราวให้ทางการทราบในทันทีและได้ช่วยกันเผาอุโมงค์ที่ทหารเติร์กช่วยกันขุดในคืนนั้นช่วยทำให้เมืองของตนรอดพ้นจากการถูกยึดครองจากทหารเติร์กได้ หลังจากทำความดีในครั้งนี้ช่างทำขนมปังได้ขอทำขนมเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว (Crescent)ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่อยู่บนธงของพวกเติร์กและมีการเฉลิมฉลองชัยชนะที่สามารถป้องกันการถูกยึดครองจากทหารเติร์กได้ ขนมปังนี้ใช้แสดงถึงกองกำลังทหารเติร์กและถูกกินอย่างอร่อยในงานฉลองชัยชนะต่อกองกำลังทหารเติร์กและเป็นที่มาของขนมครัวซองนั่งเอง ต่อมาปี ค.ศ.1875 ที่ประเทศฝรั่งเศสได้รวบรวมครัวซองมาเป็นขนมที่กินกับกาแฟ (มีขนมอื่น ๆ เช่นมัฟฟินด้วย)และได้เขียนสูตรเป็นเรื่องเป็นราวในปีค.ศ 1905 ซึ่งไม่มีใครเคยพบสูตรครัวซองต์ในที่ใด ๆ ในโลกนี้มาก่อนจึงสรุปได้ว่าประเทศฝรั่งเศสได้นำครัวซองต์มาทำให้เกิดใหม่อีกครั้งหนึ่งโดยได้นำเข้ามาอีกทีและทำให้โลกรู้จักขนมครัวซองต์กันอย่างกว้างขวางมาจนถึงปัจจุบันเครดิต Chatchawan_k / http://168-guru.blogspot.com
Saturday, August 31, 2013
Saturday, July 27, 2013
การแต่งกายของเด็กและผู้หญิงเมื่ออยู่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
นิตยสาร Vogue อิตาลี กันยายน 2008
นางแบบ Anja Rubik โปแลนด์(อันดับ 5 ของโลก)
Agnete Hedgelund เดนมาร์ค(อันดับ 49 ของโลก)
ช่างภาพ Miles Aldridge










นิตยสาร Vogue ปารีส กันยายน 2008
ช่างภาพ Benoît Peverelli








ภาษาที่นิยมกันทั่วโลก Popular languages worldwide.
1. ภาษาจีนแมนดาริน คาดว่ามีผู้ใช้ทั่วโลกประมาณ 882ล้านคน
2. ภาษาเสปน คาดว่ามีผู้ใช้ทั่วโลกประมาณ 325 ล้านคน
3. ภาษาอังกฤษ คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 312-380 ล้านคน
4. ภาษา อาระบิค คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 206-422 ล้านคน
5. ภาษาฮินดู คาดว่ามีผู้ใช้ปรมาณ 181 ล้านคน
6. ภาษาโปรตุเกส คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 178 ล้านคน
7. ภาษาบังกาเรีย คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 173 ล้านคน
8. ภาษารัสเซีย คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 146 ล้านคน
9. ภาษาญี่ปุ่น คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 128 ล้านคน
10. ภาษาเยอรมัน คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 96 ล้านคน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก By Matt Rosenberg, About.com Guide
2. ภาษาเสปน คาดว่ามีผู้ใช้ทั่วโลกประมาณ 325 ล้านคน
3. ภาษาอังกฤษ คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 312-380 ล้านคน
4. ภาษา อาระบิค คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 206-422 ล้านคน
5. ภาษาฮินดู คาดว่ามีผู้ใช้ปรมาณ 181 ล้านคน
6. ภาษาโปรตุเกส คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 178 ล้านคน
7. ภาษาบังกาเรีย คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 173 ล้านคน
8. ภาษารัสเซีย คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 146 ล้านคน
9. ภาษาญี่ปุ่น คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 128 ล้านคน
10. ภาษาเยอรมัน คาดว่ามีผู้ใช้ประมาณ 96 ล้านคน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก By Matt Rosenberg, About.com Guide
Monday, July 15, 2013
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์(Musée du Louvre)
พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (ฝรั่งเศส: Musée du Louvre) หรือในชื่อทางการว่า the Grand Louvre เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เมื่อปีพ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1793) มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัวอาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น จากตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงศตวรรษที่ 19 อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซา, The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของเลโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่งแอนทีออก ในปี พ.ศ. 2549 พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวน 8.3 ล้านคน ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก และยังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในกรุงปารีส
พีระมิดแก้วของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เปสถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ.1988 โดยเป็นหนึ่งในโครงการที่ริเริ่มของประธานาธิบดีฟร็องซัว มีแตร็อง เพื่อใช้สอยเป็นทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์ โดยผู้เข้าชมจะต้องเข้าผ่านล็อบบี้ใต้ดิน ที่อยู่ใต้ฐานพีระมิด โดยโครงการถัดไปคือพีระมิดกลับหัว หรือ The Inverse Pyramid (ฝรั่งเศส: La Pyramide Inversée) ซึ่งเป็นพีระมิดแก้วเช่นเดียวกัน ที่สามารถมองเห็นได้จากใต้ดิน โดยฐานพีระมิดจะอยู่บนพื้นผิวระดับถนน ซึ่งโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ.1993พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ถือเป็นหน่วยงานของรัฐบาลฝรั่งเศส โดยตั้งแต่ปีค.ศ.2003 ได้มีความพยายามทำการแปรรูปขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการปรับลดงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลจาก 75% เหลือเพียง 62% ในปีค.ศ.2006 โดยภาพยนตร์ชื่อดังจากนวนิยายเรื่อง ดาวินชี่โค้ด ของแดน บราวน์ พิพิภัณฑ์ได้รับเงินสนับสนุนค่าพื้นที่การถ่ายทำถึง 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในปีค.ศ.2008 รัฐบาลฝรั่งเศสได้สนันสนุนงบประมาณทั้งหมด 180 ล้านเหรียญฯ จากงบประมาณที่ต้องการทั้งหมด 350 ล้านเหรียญฯ โดยส่วนต่างที่เหลือมาจากเงินบริจาค และค่าเข้าชม
พีระมิดแก้วของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ออกแบบโดย ไอ. เอ็ม. เปสถาปนิกชาวจีน-อเมริกัน ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ.1988 โดยเป็นหนึ่งในโครงการที่ริเริ่มของประธานาธิบดีฟร็องซัว มีแตร็อง เพื่อใช้สอยเป็นทางเข้าหลักของพิพิธภัณฑ์ โดยผู้เข้าชมจะต้องเข้าผ่านล็อบบี้ใต้ดิน ที่อยู่ใต้ฐานพีระมิด โดยโครงการถัดไปคือพีระมิดกลับหัว หรือ The Inverse Pyramid (ฝรั่งเศส: La Pyramide Inversée) ซึ่งเป็นพีระมิดแก้วเช่นเดียวกัน ที่สามารถมองเห็นได้จากใต้ดิน โดยฐานพีระมิดจะอยู่บนพื้นผิวระดับถนน ซึ่งโครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ.1993พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ถือเป็นหน่วยงานของรัฐบาลฝรั่งเศส โดยตั้งแต่ปีค.ศ.2003 ได้มีความพยายามทำการแปรรูปขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการปรับลดงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลจาก 75% เหลือเพียง 62% ในปีค.ศ.2006 โดยภาพยนตร์ชื่อดังจากนวนิยายเรื่อง ดาวินชี่โค้ด ของแดน บราวน์ พิพิภัณฑ์ได้รับเงินสนับสนุนค่าพื้นที่การถ่ายทำถึง 2.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในปีค.ศ.2008 รัฐบาลฝรั่งเศสได้สนันสนุนงบประมาณทั้งหมด 180 ล้านเหรียญฯ จากงบประมาณที่ต้องการทั้งหมด 350 ล้านเหรียญฯ โดยส่วนต่างที่เหลือมาจากเงินบริจาค และค่าเข้าชม
Friday, July 5, 2013
สุนัขที่ดุที่สุดในโลก 7 อันดับ
ที่สุดของความดุกับ 7 อันดับสุนัขพันธุ์ดุที่สุดในโลก
อันดับที่ 7 อัลเซเชี่ยน(เยอรมัน เชฟเฟิด)
สุนัขพันธุ์ “อัลเซเชี่ยน” ถือเป็นสุนัขที่ได้ชื่อว่าดุพอสมควร มีเขี้ยวเล็บแหลมคม แข็งแรงว่องไว เห่าเสียงดัง ขู่ก็น่ากลัว แต่ด้วยความฉลาด เรียนรู้เร็ว เชื่อฟังคำสั่งทำให้ อัลเซเซี่ยนดูจะดีกว่าสุนัขพันธุ์อื่นอยู่มาก รวมทั้งข่าวคราวในเรื่องเสียหายก็ไม่ ค่อยมี ดังนั้น ในวงการบันเทิงบทของ อัลเซเซี่ยน จึงเป็นสุนัขฉลาดแสนรู้ ซื่อสัตย์ ขนาดเป็นพระเอกก็ยังมี แถมยังมีฉากช่วยชีวิตคนอยู่บ่อยๆ (ในชีวิตจริงก็มีบ่อยๆ เหมือนกัน
อันดับที่ 6 โดเบอร์แมน
สุนัขพันธุ์ “โดเบอร์แมน” เคยได้รับความนิยมช่วงหนึ่งในไทย ก่อนการมาถึงของ พิทบูลและร็อดไวเลอร์ นิยมเลี้ยงไว้เฝ้ายาม จึงมีนิสัยดุพอสมควร ในยุโรปเป็นสุนัขพันธุ์หนึ่งที่ใช้ล่า เนื้อเพราะความปราดเปรียวของมัน ด้วยรูป ร่างสูงเพรียว ตัวโตเต็มที่เหมือนกวางตัวย่อมๆ ส่วนเรื่องความเร็วจัดได้ว่าเป็นนักวิ่งตัวหนึ่ง
อันดับที่ 5 บางแก้ว
สุนัขพันธุ์ “บางแก้ว” เป็นสุนัขพันธุ์ไทย บางแก้ว จัดเป็นหมาไทยที่ได้ชื่อว่าดุที่สุดพันธุ์หนึ่ง และไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวคนใช้ถูกบางแก้วกัดตายเหมือนกัน ทั้งนี้ก็ด้วยพิษสงของเขี้ยวเล็บที่แข็งแรง
อันดับที่ 4 ร็อตไวเลอร์
สุนัขพันธุ์ “ร็อตไวเลอร์” จองพื้นที่หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์บ้านเราอยู่เป็นระยะๆ ด้วยนิสัยดุ กัดแหลกของมันทำให้ล่าสุดถึงกับ มีการสร้างหนังชื่อ ร็อดไวเลอร์ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความร้ายกาจของสุนัขพันธุ์นี้
อันดับที่ 3 ฟิล่า บราซิลเลียโร่
สุนัขล่าเนื้อจากต่างประเทศเข้ามาเลี้ยงตามบ้าน เป็นสุนัขพันธุ์ดุ โดยมีสายพันธุ์ดั้งเดิมเป็นสุนัข พื้นเมืองของบราซิล ที่เลี้ยงในไร่ขนาดใหญ่เพื่อขับไล่เสือหรือหมี ฟิล่าเป็นสุนัขตัวโตพละกำลังมาก แต่ว่าปราดเปรียวว่องไว ซึ่งเกิดจากการผสมระหว่าง English Mastiffs, Bulldog พันธ์ใหญ่, Bloodhound และสุนัขเลี้ยงสัตว์ของโปรตุเกส แล้วมีการนำเข้ามาในบราซิลสมัยยุคล่าอาณานิคม และตั้งชื่อสุนัขพันธ์ใหม่นี้ว่า Fila ดังนั้นฟิล่าจึงได้รับข้อดีของสุนัขทั้งสี่สายพันธ์ข้างต้นมาด้วย สุนัขฟิล่า บราซิลเลียโร่ ไม่ได้เป็นสุนัขทีเหมาะสำหรับทุกคน สัญชาตญาณการปกป้อง เจ้าของเป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่มีอยู่ในฟิล่าโดยธรรมชาติ ฟิล่าจะดุมากกับคนแปลกหน้า แต่ตรงกันข้ามฟิล่าจะเป็นสุนัขที่อ่อนน้อมถ่อมตน ขี้อ้อน เชื่องและว่านอนสอนง่ายเอามากๆ กับเจ้าของ
อันดับที่ 2 ทิเบตัน มาสทิสส์
เป็นสุนัขสายพันธุ์โบราณ มีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นว่า Do-khyi ซึ่งแปลว่า สุนัขที่ต้องถูกผูกไว้ (tied dog) เนื่องจากอุปนิสัยที่หวงถิ่นฐาน และดุร้าย จึงต้องผูกไว้เพื่อความปลอดภัยของบุคคลภายนอก พวกมันเป็น 1 ในสายพันธุ์สุนัข ที่ ดุร้ายที่สุดในโลก สายพันธุ์หนึ่ง โดยชาวธิเบต กล่าวว่าพวกมัน ดุร้าย กล้าหาญ และแข็งแกร่งจนสามารถต่อสู้กับหมี หรือ เสือ ที่บุกเขามากินฝูงสัตว์ที่มันดูแลได้ทีเดียว
อันดับที่ 1 อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย
สุนัขพันธุ์ “อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย” เป็นสุนัขพันธุ์ที่ดุที่สุดในโลก ถึงขนาดที่ประเทศอังกฤษแบบไม่ให้มีการเลี้ยงกัน เนื่องจากมีข่าวจนเป็นคดีความ ฟ้องร้องกันไปหลายครั้งหลายครา สุนัขพันธุ์นี้ก็เคยมีข่าวว่ากัดคนตายมาแล้วมากมาย (แต่รักเจ้าของยิ่งชีพ)
Friday, June 28, 2013
ปักษาสวรรค์ ตระกูลนกที่สวยที่สุดในโลก( Birds of Paradise )
ปักษาสวรรค์( Birds of Paradise )
![]() ![]() ปักษาสวรรค์รูบร้า ( Paradisaea rubra ) กำลังโชว์ขน สองเส้นที่หาง และขนสีแดงสดบริเวณลำตัวและปีก และมันเป็นสัญลักษณ์ของนกในตระกูล Famciful plumage ![]() ![]() ปักษาสวรรค์เดคคอร่า ( Paradisaea decora ) กำลังโชว์ขนอย่างอลังการเพื่ออวดสาว แต่นั้นก็ทำให้มันเป็นนกที่ถูกล่าเป็นอันดับต้นๆ เพื่อต้องการเส้นขนของมัน ![]() ปักษาสวรรค์ Astrapia mayeri เป็นปักษาสวรรค์ที่ มีขนหางยาวที่สุด ยาวประมาณ 0.3 เมตร ซึ่งมันก็ต้องแลกกับการที่มีหางยาวสวยงาม จะทำให้ตัวเมียสนใจได้มากกว่าตัวผู้ที่หางสั้น กับการที่จะล่าเหยื่อได้ยากขี้นเนื่องจากหางเส้นยาวของมัน ![]() ![]() ปักษาสวรรค์รูดอลฟี ( Paradisaea rudolphi ) โดยมากปักษาสวรรค์มักจะร้อง อวดเส้นขนกันเป็นกลุ่มหลายๆ ตัว แต่สำหรับ ปักษาสวรรค์รูดอลฟี สีฟ้าสดใสตัวนี้มักจะอวดขนเพียงตัวเดียว ![]() ![]() ปักษาสวรรค์ Cicinnurus respublica เมื่อมันพบตัวเมียมันจะร้องเกี้ยว เคาะ และพองแผงหน้าอกออก และสั่นขนหาง ![]() ปักษาสวรรค์ Seleucidis melanoleuca ลักษณะเด่นของนกตัวนี้ก็คือตัวผู้จะมีขนหางยาวเป็นเส้นคล้ายเส้นลวด 12 เส้น กำลังโชว์ลีลา และร้องหาคู่บนตอไม้ ![]() ปักษาสวรรค์แคร์รอลอี้ ( Parotia carolae ) เป็น 1 ใน 6 ปักษาสวรรค์ทีมีการเต้นระบำเพื่อเีกี้ยวอาดสาว ตามรูป ปักษาสวรรค์แคร์รอลอี้ กำลังโชว์ระบำอวดนกสาว 3 ตัว ![]() ปักษาสวรรค์ Cicinnurus regius จุดสังเกตุคือขนอกสีขาว และขาสีฟ้าสด มันเป็นปักษาสวรรค์ที่ตัวเล็กที่สุด ![]() ปักษาสวรรค์ Parotia sefilata จุดเด่นของนกตัวนี้ก็คือขนสีรุ้งที่แผงคอ และขนเนื้อกำมะหยี่สีดำทั้งตัว ![]() ปักษาสวรรค์ Cicinnurus magnificus เป็นนกสายพันธ์อีกาที่สวยงามที่สุดในโลก และเป็นนกสายพันธ์ใหม่ที่พึ่งค้นพบ ![]() ปักษาสวรรค์ Astrapia stephaniae กำลังกินลูกไม้ มันมีขนหางยาวสีดำ หัวสีเขียว และนั้นจุดสังเกตุที่ทำให้สามารถดูมันออกได้ไม่ยาก ![]() ปักษาสวรรค์ Manucodia comrii กำลังป้อนเหยื่อให้ลูก เป็นเรื่องจริงที่ปักษาสวรรค์ทั้งหมดสืบเชื้อสายมาจากอีกา แต่มีเพียงปักษาสวรรค์ Manucodia comrii เท่านั้นที่ยังคงคล้ายอีกาค่อนข้างมาก และทั้งตัวผู้และตัวเมียมีรูปร่างคล้ายกัน ไม่เหมือนปักษาสวรรค์พันธ์อื่นที่ตัวผู้จะมีสีสันสวยงามกว่าตัวเมีย ![]() ปักษาสวรรค์ Pteridophora alberti ขนหงอนที่หัวทำให้มันถูกนำไปทำเครื่องประดับหัวหัวหน้าเผ่าแซกซอนซึ่งแสดง ให้เห็นถึงฐานะ อำนาจของผู้สวมใส่่ http://www.youtube.com/watch?v=YTR21os8gTA&feature=player_embedded |
Subscribe to:
Posts (Atom)